เรอัล มาดริด ทะยานเข้ารอบน็อคเอาต์แชมเปี้ยนส์ลีก ในฐานะแชมป์กลุ่ม เอฟ หลังเปิดบ้านยำใหญ่ เซลติก 5-1 ในนัดส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่ม
เริ่มเกมมาได้ 6 นาที เรอัล มาดริด มาได้จุดโทษ เมื่อลูกยิงจาก เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ไปชนแขนของ โมริทซ์ เยนซ์ ก่อนที่ ลูก้า โมดริช จะรับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ราชันชุดขาว นำเร็ว 1-0
จากนั้นเจ้าถิ่นก็ครองบอลบุกเข้าใส่อยู่ข้างเดียว และนาทีที่ 21 ก็มาได้อีกจุดโทษ เมื่อบอลไปโดนแขนของ แม็ตต์ โอไรลี่ย์ ผู้ตัดสินได้รับสัญญาณจากวีเออาร์ แล้วจึงกลับมาเป่าให้ คราวนี้เป็น โรดรีโก้ โกเอส ที่ยิงผ่านมือ โจ ฮาร์ท เข้าประตูไป สกอร์เป็น 2-0 แล้ว
เซลติก เองก็มีโอกาสตีไข่แตกเหมือนกัน ไดเซน มาเอดะ จ่ายไปให้ เคียวโกะ ฟุรุฮาชิ ยิงด้วยขวาในเขตโทษ แต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ก็ยังเหนียวเซฟไว้ได้
นาทีที่ 35 เซลติก มาได้จุดโทษบ้าง แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ไปเสียบใส่ ลีเอล อบาด้า ผู้ตัดสินเป่าแบบไม่ลังเล แต่ โยซิป ยูราโนวิช ที่รับหน้าที่สังหารกลับยิงไปถูก กูร์กตัวส์ พุ่งปัดไว้ได้
เข้าสู่ครึ่งหลัง นาทีที่ 51 มาดริด มาหนีห่าง 3-0 เมื่อ ดาเนียล การ์บาฆาล กระชากมาทางขวาก่อนล้มตัวกวาดบอลไปแฉลบแล้วกระดอนตั้งเข้าทางปืน มาร์โก อาเซนซิโอ ยิงด้วยซ้ายตุงตาข่ายไม่เหลือ
ไม่แค่นั้น นาทีที่ 61 เจ้าบ้านมาขยับเป็น 4-0 เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ พาบอลมาทางกราบขวาก่อนเปิดยัดเข้ากลางให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ชาร์จระยะเผาขนเข้าประตูไป
อีก 10 นาทีถัดมา เรอัล มาดริด มาได้เพิ่มอีกเม็ด บอลจาก ลูกัส บาซเกซ ตัวสำรองจ่ายมาให้ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ยิงด้วยขวาจากหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเป็นจรดผ่านมือ โจ ฮาร์ท เสียบมุมประตูไปเลย
เซลติก เองก็ไม่ยอมเหมือนกัน นาทีที่ 84 ตีไข่แตกไล่มา 1-5 จากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องไปทางซ้าย โชต้า ปั่นด้วยเท้าขวาผ่านมือ กูร์กตัวส์ เสียบใต้คานสุดสวย
นาทีที่ 88 คาริม เบนเซม่า ที่ลงสำรองมามีโอกาสใส่สกอร์ให้ตัวเองเหมือนกัน แต่ก็ยิงไปแฉลบแนวรับทีมเยือน
ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เรอัล มาดริด ถล่ม เซลติก 5-1
ต่อกรณีดังกล่าวทำให้ เรอัล มาดริด จบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม เอฟ มี 13 คะแนน ตามมาด้วย ไลป์ซิก ที่ถล่ม ชัคตาร์ โดเนตส์ค 4-0 เข้าที่สองมี 12 แต้ม
ด้าน ชัคตาร์ นั้นจบอันดับ 3 มี 6 คะแนน ได้ไปลุยต่อในยูโรปา ลีก ส่วน เซลติก เป็นบ๊วยมี 2 แต้ม ตกรอบสนิท
เรอัล มาดริด : ติโบต์ กูร์กตัวส์ – ดาเนียล การ์บาฆาล, เอแดร์ มิลิเตา, ดาวิด อลาบา, แฟร์กล็องด์ เมนดี้ – เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้, โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช – โรดรีโก้ โกเอส, มาร์โก อาเซนซิโอ, วินิซิอุส จูเนียร์
เซลติก : โจ ฮาร์ท – โยซิป ยูราโนวิช, คาร์ล สตาร์เฟลท์, โมริทซ์ เยนซ์, เกร็ก เทย์เลอร์ – ลีเอล อบาด้า, อารอน มอย, แม็ตต์ โอไรลี่ย์, เรโอะ ฮาตาเตะ, ไดเซน มาเอดะ – เคียวโกะ ฟุรุฮาชิ
{{val.time_create * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm:ss’}} น.
แก้ไขเมื่อ {{val.time_update * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm:ss’}} น.
Quote
{{v.time_create * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm น.’}}
แก้ไขเมื่อ {{v.time_update * 1000 | date : ‘dd/MM/yyyy HH:mm น.’}}
Quote
0 && !val.replys” ng-click=”content.event.get_reply(val);”>
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})
มิลานเฮแล้วดับคลับบรูช10ตัว3-1 วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567
ทาคิ ซัดเบิ้ล!โมนาโกยำเซอร์เวน่า5-1 วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567
กอร์ดอนต่อสัญญายาวฝากอนาคตสาลิกา วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567
บิ๊กผีรับเองไม่พอใจฟอร์มสตาร์ทฤดูกาล วันพุธที่ 23 ตุลาคม 2567
เคียซ่าไร้เงาซ้อมวืดเกมเยือนไลป์ซิกอีก วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
อาแจ็กซ์ชักลังเลหวั่นอันโตนี่ลืมฟอร์มเก่ง วันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2567
